Navigator Technology Solution Co.,Ltd.
189/596-597 Moo.5 Rama II Road Thailand.
Tel:02-417-1400 , 085-484-2316
Line ID : @NavigatorAutogate
Line ID : 0854842316
Email : ntscctv@gmail.com
วัดความพึงพอใจ |
สมาชิกVIP |
Promotion |
ทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ |
ลูกค้าของเรา |
Trustmark |
ความรู้ประตูรีโมท ประตูม้วนไฟฟ้า ประตูม้วน3S |
ความรู้กล้องวงจรปิด กันขโมย |
รวมบทความ |
นโยบายความเป็นส่วนตัว |
กล้องวงจรปิดจับภาพ ฉกเงิน 7 หมื่นบาท เนื้อหาบทความนี้จากหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก
ภาพที่ได้จากกล้องของห้างสรรพสินค้าค่อนข้างไกล จึงไม่ชัดไม่ต่างจากที่ได้มาจากธนาคาร ติ๊กจึงเข้าไปขอความร่วมมือจากร้านสตาร์บัคส์อีกครั้ง ขอความอนุเคราะห์ตรวจสอบภาพวงจรปิด ซึ่งแน่นอนสังคมไทยยังไม่ไร้น้ำใจ สตาร์บัคส์มาบุญครองยินดีให้ความร่วมมือ แล้วสิ่งที่ปรากฎในกล้องของสตาร์บัคส์คือ ภาพหญิงสาวในชุดแส็กดำยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ สั่งกาแฟเป็นเงิน 250 บาท ชัดเจนพอจะระบุรูปพรรณสันฐานได้ในระดับค่อนข้างดีจากนั้นหญิงสาวชุดแส็กดำได้เดินออกจากร้านกาแฟแล้วภาพสุดท้ายที่จับได้คือ ขณะเดินขึ้นบันไดหน้ามาบุญครองข้ามไปฝั่งสยาม ก่อนจะไปปรากฎตัวอยู่ในภาพวงจรปิดของเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย สาขาหน้าโรงหนังสยาม พร้อมกับเงิน 7 หมื่นบาทไป รายละเอียดของข่าว เมื่อหมดที่พึ่งไม่รู้จะหันหน้าไปขอความช่วยเหลือจากใคร ตำรวจเองก็ช่วยอะไรได้ไม่มาก ทั้งที่เป็นคดีอาญามีหน้าที่ต้องติดตามจับกุมคนร้าย จะด้วยเหตุจำเป็นใดก็ตามแต่ทำให้คดีต้องสะดุดลง "นวลจันทร์ เทิดน้ำเพ็ชร์" หรือติ๊ก หญิงสาววัย 32 ปี จึงต้องพึ่งตัวเอง ทำหน้าที่ของตัวเอง ด้วยการช่วยเหลือตัวเองกับบทบาท..."นักสืบ"จำเป็น !?!
19.16 น. 26 มกราคม ติ๊กมีเหตุจำเป็นต้องไปจ่ายเงินค่าบัตรเครดิตและต้องการแลกเงินสกุลต่างประเทศที่เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย สาขาหน้าโรงหนังสยาม แต่ด้วยความสะเพร่าเผลอวางซองบรรจุธนบัตรสกุลต่างประเทศในซองพลาสติก รวมเป็นเงินไทย 7 หมื่นบาท แล้วถูกผู้หญิงคนหนึ่งแต่งกายด้วยเสื้อผ้าภูมิฐานหยิบเอาไป
ทันทีที่รู้ตัวว่าซองบรรจุเงินหาย ติ๊กเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ระบุวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุ ก่อนจะได้รับคำแนะนำให้นำบันทึกประจำวัน ไปติดต่อเจ้าของสถานที่เกิดเหตุขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด ถ้าพบก็ขอให้พนักงานบันทึกลงซีดีหรือปรินท์นำกลับมาให้ตรวจ
นั่นคือขั้นตอนและหน้าที่ของตำรวจแท้ๆแม้จะสงสัยแต่เมื่อได้รับคำแนะนำเช่นนี้ หญิงสาวจึงตรงไปที่เคาน์เตอร์ธนาคารและขอความช่วยเหลือ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมืออย่างดีที่สุด นำมาสู่ภาพขณะเกิดเหตุ หญิงสาวชุดแส็กสีดำด้านขวาของภาพหยิบซองบรรจุธนบัตรของติ๊กไป เงินท่น้องสาวของเธอต้องแลกมาจากการทำงานที่ประเทศแถบตะวันออกกลางมาเป็นค่ารักษาพยาบาลแม่ที่มีโรคประจำตัวอยู่
สองวันหลังเกิดเหตุ ตำรวจเรียกติ๊กมาสอบปากคำเพิ่มเติม เธอมอบภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดของธนาคารแก่ตำรวจ ก่อนที่จะได้รับคำอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนการขออนุมัติจากศาลในการออกหมายจับ โดยระบุว่าหลายครั้งที่ศาลไม่อนุมัติหมายจับ เนื่องจากภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดไม่ชัด หรือไม่ก็ไม่สามารถระบุตัวคนร้ายได้ชัดเจน หรือสุดท้ายศาลก็ยกฟ้อง
เป็นคำแนะนำที่ดีหากว่าตำรวจจะหาทางออกให้ด้วยการทำคดีนี้ด้วยมือของตำรวจเอง แต่เปล่าเลย ? กระนั้นติ๊กก็ยังมองโลกในแง่ดีพอ ด้วยการโทษสิ่งที่เกิดขึ้นให้ป็นความผิดของตัวเอง และคำบอกเล่าของตำรวจเปรียบเหมือนการทำใจไว้ก่อน โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับเธอมีมาก เพราะหลักฐานที่มีอยู่น้อย เพียงแค่โครงหน้าคร่าวๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น ส่วนชื่อ-นามสกุลหรือที่อยู่ก็ไม่รู้จัก ผู้หญิงลักษณะนี้มีมากมายเกินกว่าที่จะตามหาได้พบด้วยตนเอง
ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ติ๊กคิดได้ว่า เธอต้องหาหลักฐานเพิ่มเติม และต้องหาด้วยตัวเอง จะหวังพึ่งตำรวจไม่ได้แล้ว !?!
สิ่งแรกที่ติ๊กทำคือการเข้าไปตั้งกระทู้ในห้องเฉลิมไทยเว็บพันทิปดอทคอม เตือนให้ผู้คนระวังภัยใกล้ตัว ระหว่างนี้ก็ขอคำปรึกษาไปเรื่อยๆกระทั่งสมาชิกเข้ามาช่วยกันดูและวิเคราะห์ภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดของธนาคาร จนจับได้ว่าคนร้ายถือถุงกระดาษของห้างสรรพสินค้าโตคิว ย่านประทุมวัน
ประการต่อมาที่หญิงสาวทำคือการขอให้ตำรวจออกหนังสือขอความร่วมมือไปยังห้างสรรพสินค้าโตคิวและมาบุญครอง มุ่งหวังว่าจะได้มุมภาพที่ชัดเจนมากกว่าที่มีอยู่ จากนั้นได้มอบหมายให้เพื่อนไปติดต่อขอหนังสือ นำไปประสานกับห้างชื่อดังทั้งสองแห่ง ซึ่งก็ได้รับความร่วมมืออย่างดีที่สุด พร้อมกับช่วยตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ตามวันเวลาใกล้เคียงกับช่วงเกิดเหตุ ทุกจุด ทุกมุม เท่าที่จะมีกล้องติดตั้งเอาไว้
ไม่นานโชคก็เข้าข้างติ๊ก !
ราวๆ บ่าย 2 โมงเศษ วันที่ 26 มกราคม 2552 หญิงสาวคนหนึ่งตรงตามรูปพรรณสัณฐานที่ได้จากกล้องวงจรปิดของธนาคารกรุงไทย สาขาหน้าโรงหนังสยาม สวมชุดแส็กสีดำ ถือกระเป๋าสะพายสีดำ และหนีบถุงสีขาว เดินมาจากสถานีรถไฟฟ้าจุดเชื่อมต่อกับห้างโตคิวชั้น 2 ตรงเข้าห้างมาจากนั้นภาพกล้องวงจรปิดจับได้อีกทีตอนเธอเดินเลือกซื้อเสื้อผ้าฝั่งมาบุญครอง ซื้อเสื้อ 1 ตัว พนักงานใส่ถุงกระดาษโตคิว และนี่เองที่เป็นต้นตอให้สาวมาถึงจุดนี้
ต่อมาหญิงสาวได้ไปนั่งอยู่หน้าร้านแมคโดนัลด์นำถุงสีขาวใส่ลงไปในถุงกระดาษโตคิว ออกมาเดินเล่นสักพักแล้วจึงแวะเข้าไปในร้านกาแฟหรูสตาร์บัคบริเวณชั้น 1 ห้างมาบุญครอง
ภาพที่ได้จากกล้องของห้างสรรพสินค้าค่อนข้างไกล จึงไม่ชัดไม่ต่างจากที่ได้มาจากธนาคาร ติ๊กจึงเข้าไปขอความร่วมมือจากร้านสตาร์บัคส์อีกครั้ง ขอความอนุเคราะห์ตรวจสอบภาพวงจรปิด ซึ่งแน่นอนสังคมไทยยังไม่ไร้น้ำใจ สตาร์บัคส์มาบุญครองยินดีให้ความร่วมมือ แล้วสิ่งที่ปรากฎในกล้องของสตาร์บัคส์คือ ภาพหญิงสาวในชุดแส็กดำยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ สั่งกาแฟเป็นเงิน 250 บาท ชัดเจนพอจะระบุรูปพรรณสันฐานได้ในระดับค่อนข้างดี
จากนั้นหญิงสาวชุดแส็กดำได้เดินออกจากร้านกาแฟแล้วภาพสุดท้ายที่จับได้คือ ขณะเดินขึ้นบันไดหน้ามาบุญครองข้ามไปฝั่งสยาม ก่อนจะไปปรากฎตัวอยู่ในภาพวงจรปิดของเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย สาขาหน้าโรงหนังสยาม พร้อมกับเงิน 7 หมื่นบาทไป
ผู้หญิงชุดแส็กสีดำ คือ หัวขโมย
จังหวะนี้หัวขโมยทำทีเป็นเอากระเป๋าวางทับซองเงินแล้วรวบเอาไป
จากข่าว : หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552 ตะลุยข่าว : นักสืบสาวจำเป็น |
บทความกล้องวงจรปิด